ในช่วงปิดฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดซื้อขายนักเตะได้ทำการเปิดตัวขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น โดยตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงนี้ถูกมองว่าจะเป็นตลาดที่ค่อนข้างซบเซาครั้งหนึ่งในรอบหลายปีเลยทีเดียว เพราะว่าด้วยพิษโควิด 19 ที่เล่นงานทุกสโมสรกีฬาในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สโมสรต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการขาดรายได้ด้านต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการที่ไม่มีแฟนบอลเข้ามาชมเกมในสนาม ทำให้แต่ละสโมสรเสียรายได้ไปมหาศาลเลยทีเดียว และพวกเขาจะต้องขาดรายได้ด้านนี้ไปอีกระยะหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งจนกว่าสถานการณ์โลกจะกลับมาเป็นปกติ และโรคระบาดได้หมดลงไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้สโมสรต่างๆ จะต้องระมัดระวังในการใช้เงินเป็นอย่างยิ่งในช่วงนี้ ซึ่งหลายทีมก็มีท่าทีที่จะไม่มีการเสริมทัพมากนักในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยเฉพาะแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างลิเวอร์พูล ที่แสดงทีท่าชัดเจนว่าพวกเขาอาจจะมีการเสริมทัพเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่นเดียวกับทางเรอัล มาดริด แชมป์ลา ลีก้าสเปนที่ซัมเมอร์นี้อาจจะเป็นซัมเมอร์ที่เงียบเหงาของพวกเขา ทำให้ตลาดซื้อขายนักเตะในซัมเมอร์นี้ถูกมองว่าอาจจะเงียบเหงากว่าที่เคย เพราะทุกทีมนั้นกัดเข็มขัดกันสุดตัวทั้งนั้น
แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังมีอีกหลายทีมที่จะกระโดดลงสู่ตลาดซื้อขายนักเตะรอบนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าเป้าหมายของแต่ละสโมสรนั้นแตกต่างกัน ซึ่งแต่ละทีมก็มีความมั่นคงทางการเงินที่แตกต่างกันด้วย อันตัวอย่างเช่นเชลซี ทีมดังของพรีเมียร์ลีกที่อัดอั้นไม่ได้เสริมทัพมา 1 ฤดูกาล ซึ่งตลาดรอบนี้พวกเขาสอยไปแล้ว 2 คนก่อนหน้านี้ ซึ่งก็คือฮาคิม ซิเย็ค และติโม แวร์เนอร์ 2 ตัวรุกดาวเด่นมาร่วมทีม แต่ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เพราะว่ายังมีนักเตะอีกหลายคนที่เชลซีหมายปองอยู่ ไม่ว่าจะเป็นไค ฮาแวร์ต กองกลางดาวรุ่งทีมชาติเยอรมันของไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่ก็ตกเป็นข่าวกับพวกเขามาอย่างต่อเนื่อง และนอกจากนั้นเชลซีจะเสริมทัพในตำแหน่งแผงหลังอย่างแน่นอน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นระดับบิ๊กเนมหรือไม่ และกี่คนเท่านั้น ซึ่งพวกเขาจะเป็นทีมที่ลงทุนมากที่สุดในซัมเมอร์นี้อย่างไม่ต้องสงสัย เช่นเดียวกันกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ก็มีแผนงานการจะกลับไปประสบความสำเร็จในการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างชัดเจน ซึ่งพวกเขากำลังอยู่ในช่วงของการสร้างทีมขึ้นไปเทียบเคียงกับลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเวลานี้ ซึ่งพวกเขาจะต้องเสริมทัพอย่างแน่นอนในซัมเมอร์นี้เช่นกัน ซึ่งนอกจากนั้นก็ยังมีทีมอย่างเอฟเวอร์ตันที่อยากจะก้าวขึ้นมาเป็นทีมยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกเช่นกัน ซึ่งพวกเขาจะลงทุนอย่างหนักแน่นอนในซัมเมอร์นี้ เพราะว่าเป็นสิ่งที่บอร์ดบริหารสัญญาไว้กับคาร์โล อันเชล็อตติ ยอดกุนซือชาวอิตาเลี่ยนในตอนที่ดึงเขามาคุมทีมนั่นเอง
มีนักเตะหลายคนที่เนื้อหอมอย่างแรงในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยเริ่มต้นกันที่ติอาโก้ อัลคันตาร่า กองกลางทีมชาติสเปนวัย 29 ปีของบาเยิร์น มิวนิค ทีมแชมป์บุนเดสลีก้า 8 สมัยติดต่อกัน ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาลงหลังจบฤดูกาลหน้า ทำให้ทีม “เสือใต้” ต้องการที่จะปล่อยออกจากทีมในซัมเมอร์นี้ ซึ่งก็มีหลายสโมสรที่สนใจ และตกเป็นข่าวกับอดีตกองกลางของบาร์เซโลน่ารายนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือว่าแม้แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ตาม ซึ่งต้องดูว่าสุดท้ายแล้วเขาจะได้ย้ายไปอยู่กับทีมไหนในซัมเมอร์นี้ ซึ่งอีกคนที่เนื้อหอมไม่แพ้กันของบาเยิร์น มิวนิคก็คือดาบิด อลาบา กองหลังทีมชาติออสเตรียที่ฤดูกาลที่ผ่านมาถูกจับไปเล่นเป็นปราการหลังตัวกลาง และสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับระบบการเล่นใหม่ของฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิกค์ ซึ่งสัญญาของเขาก็กำลังจะหมดลงเช่นกัน ทำให้กลายเป็นนักเตะอีกคนที่เนื้อหอมในช่วงซัมเมอร์นี้
อีกคนที่มาแรงก็คือกาเบรี้ยล มากาเญส ปราการหลังดาวรุ่งชาวบราซิเลี่ยนของทีมลีลล์ ทีมดังของฝรั่งเศสที่สะสมนักเตะดาวรุ่งน่าสนใจไว้มากมายในช่วงหลังมานี้ ทำให้นักเตะจากทีมนี้ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในยุโรปในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งปราการหลังวัย 22 ปีรายนี้กลายเป็นทางเลือกในการเสริมแนวรับของหลายทีมในยุโรป ซึ่งตอนนี้มีทั้งนาโปลี เอฟเวอร์ตัน และรวมถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กำลังตามล่าลายเซ็นกองหลังรายนี้ไปร่วมทีมอยู่ ซึ่งถือว่ากลายเป็นตัวเลือกที่กำลังมาแรงในเวลานี้ เพราะว่ากันว่าค่าตัวของกองหลังรายนี้อยู่ที่ประมาณ 30 ล้านยูโรเท่านั้น ซึ่งถูกกว่าการที่หลายๆ ทีมจะไปคว้าตัวคาลิดู คูลิบาลี่ กองหลังจอมแกร่งจากนาโปลีเยอะ
แม้ว่าตลาดรอบนี้อาจจะมีการโยกย้ายในระดับบิ๊กดีลน้อยกว่าซัมเมอร์ปีก่อนๆ พอสมควร แต่ว่าก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญทีเดียว ซึ่งทีมที่มีเงินเย็นอยู่ในมือนั้นก็ต่างเลือกที่จะซื้อนักเตะในช่วงนี้ เพราะจะได้รับความเห็นใจเล็กน้อยจากสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมานั่นเอง ซึ่งน่าจะทำให้ราคาค่าตัวลดลงจากเดิมเล็กน้อยด้วย ทำให้สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นตลาดซื้อขายนักเตะที่น่าสนใจอยู่ดีในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งทีมต่างๆ จะยังมีเวลาในการซื้อขายอีก 2 เดือนเลยทีเดียว ซึ่งต้องมาดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างหลังจากนี้